
สวนหินธรรมชาติ
พุหางนาค
" มรดกทางธรรมชาติชิ้นเอกของเมืองสุพรรณ
ที่ควรค่าแก่การปกปักษ์รักษาไว้ "
ความงดงามของสวนหินธรรมชาติดึกดำบรรพ์อายุนับหมื่นล้านปี
สวนป่าไม้โบราณอายุนับ 1000 ปี และปริศนาแห่งศาสนสถาน
เมืองโบราณอู่ทอง เป็นสถานที่ที่น่าสนใจแห่งใหม่ของจังหวัดสุพรรณบุรี
ที่เต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ
สวนหินที่งดงามตามจินตนาการ ด้วยรูปทรงที่หลากหลาย
และริ้วรอยที่สรรสร้างโดยธรรมชาติ
ดั่งผลงานชิ้นยอดของศิลปินชั้นเยี่ยม
ความงามที่แฝงไว้ซึ่งปริศนา
ให้ผู้ที่สนใจเรื่องราวของอารยธรรมโบราณ ร่องรอยที่ปรากฏเป็นปริศนาให้เราต้องค้นหากันต่อไป
โทร. 081-1926378,
087-7597643, 080-4385178




ป่าปรง
พันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์อายุนับ 1000 ปี
ความงามอันเป็นที่หมายปองของใครหลายคนที่เห็นคุณค่า แต่ขาดจิตสำนึก
...
หากไม่มีความร่วมมือช่วยกันดูแลรักษา
ความงดงามที่มากด้วยคุณค่า คงหมดไปจากป่านี้
เป็นความอัศจรรย์ของป่าใกล้เมืองที่ยังหลงเหลือพันธุ์ไม้โบราณมากมายให้เราได้ชื่นชม

จันผา ไม้อนุรักษ์ ที่คนชอบลักลอบตัดไปขาย จันผาที่นี่มีมากมาย
แต่ละต้นสูงใหญ่ นั้นหมายถึงอายุและมูลค่าของไม้ชนิดนี้
และความงดงามของสีสันสดสวยด้วยสีสันดอกไม้ป่า ที่จะเบ่งบานตามธรรมชาติ
สีเหลืองของ ดอกสลัดไดอายุหลายร้อยปี ที่จะงดงามในช่วงออกพรรษาของทุกปี
หลังลมหนาวส่งลา ใบไม้ป่าร่วงหล่น เหลือเพียงกิ่งก้านยืนต้น
เพื่อพลิดอกสีเหลืองอันน่ายล
ของไม้งามนาม สุพรรณนิกา และพุดป่าสีขาวบริสุทธิ

สะพานหิน
มหัศจรรย์งานสร้างของธรรมชาติ หรือฝีมือมนุษย์...............???



ปัจจุบัน
สวนหินธรรมชาติ พุหางนาค
ได้เปิดให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
อยู่ภายใต้การดูแลของวนอุทยานพุม่วงโดยความร่วมมือกับชาวชุมชนในพื้นที่ จัดเส้นทางพาชมความงดงาม และเรียนรู้ธรรมชาติของสวนหินแห่งนี้
เพื่อเป็นเกราะป้องกันการบุกทำลายและหาประโยชน์ จากทรัพยากรณ์อันทรงคุณค่า
โดยหวังให้นักเดินทางท่องเที่ยวที่มีจิตสำนึกในธรรมชาติ จะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้องป่าแห่งนี้
ภาพหลุ่มที่เกิดจากการลอบขุดต้นปรง ภาพต้นจันผาที่เหลือเพียงตอขนาดใหญ่
บ่งบอกถึงอนาคตของไม้โบราณเหล่านี้ หากเราไม่ช่วยกันดูแล
การเตรียมตัว
เส้นทางในการเที่ยวชมธรรมชาติที่ สวนหินฯ
เป็นเส้นทางที่ไม่ถึงกับ ลำบากมากนัก ถ้าเดินชมทั้งหมด ต้องใช้เวลา
1 วันเต็มๆ
มี 3 เส้นทางสำคัญที่น่าสนใจ
แต่ละเส้นทางใช้เวลาในการเดินชมราว 2 ชั่วโมง
การแต่งกายได้ทุกรูปแบบ แต่รองเท้า ควรเป็นรองเท้าผ้าใบ หรือ
รองเท้ารัดส้น เพราะลักษณะก้อนหินมีความคม
ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ รองเท้าส้นสูง
น้ำดื่ม
ควรพกติดตัวไปตนละ 1 ขวด และไม่ควรทิ้งเป็นขยะในพื้นที่
ติดต่อคนนำทาง
พี่เสน่ห์ (หางนาค 5)
โทร. 081-1926378
ชัช ชาวสวน (หางนาค 3)
โทร. 087-7597643
สมพงษ์ แตงทัพ (หางนาค 4)
โทร. 080-4385178
เปิดนำเที่ยว
9.00 - 16.00 น
รอบเช้า 10.00 น
รอบบ่าย 13.30 น
(วันเสาร์ - อาทิตย์)

"นักวิชาการบางท่านให้ความเห็นว่า
กลุ่มหินที่วางซ้อนกัน คือ
หินตั้ง "
"หินตั้ง"
ที่นักวิชาการโบราณคดีและประวัติศาสตร์
สันนิษฐานว่ามนุษย์ยุคโบราณนำหินมาวางซ้อนกันไว้
เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
เมื่อกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา
หินตั้ง
เป็นวัฒนธรรมหินที่คนพื้นเมืองยุคดึกดำบรรพ์สุวรรณภูมิอุษาคเนย์จัดวางเป็นกลุ่มให้ได้รูปลักษณะต่างๆ
ใช้บอกเขตศักดิ์สิทธิ์ พบมากในอีสานและลาว เช่น
ไหหินที่ทุ่งไหหิน แขวงเชียงขวาง ในลาว
ครั้นรับพุทธศาสนาก็ปรับหินตั้งเป็นเสมาหิน เช่น
ที่ภูพระบาทบัวบก-บัวบาน อ. บ้านผือ จ. อุดรธานี
หินตั้ง ที่ป่าหินตั้ง
บนยอดเขาพุหางนาค เมืองอู่ทอง สุพรรณ
คือสิ่งก่อสร้างในศาสนาผีพื้นเมืองสุวรรณภูมิอุษาคเนย์
ที่มีอยู่ก่อนรับศาสนาพราหมณ์-พุทธ จากอินเดีย
แสดงว่าบริเวณลุ่มน้ำแม่กลอง-ท่าจีน
มีชุมชนขนาดใหญ่ระดับเมืองหรือรัฐเล็กๆอยู่แล้ว
ก่อนติดต่อรับอารยธรรมอินเดีย (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม)
พุหางนาค
เป็นชื่อยอดเขาลูกหนึ่งบนทิวเขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีหลายยอดในชื่อต่างๆกัน
(เช่น เขารางกะปิด, เขาพระ, เขาทำเทียม, เขาถ้ำเสือ)
ของทิวเขาด้านหลัง (หรือด้านตะวันตก) เมืองอู่ทอง อ.
อู่ทอง จ. สุพรรณบุรี
ชื่อเขาพุหางนาค หมายถึง
ยอดเขาที่มีน้ำผุดขึ้นจากใต้ดิน
แล้วไหลคดเคี้ยวเป็นแนวยาวคล้ายหางพญานาคลงตีนเขา
พุ แปลว่า ผุดขึ้น, แตกขึ้น
แล้วเรียกน้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินด้วยแรงดันธรรมชาติภายในว่าน้ำพุ
น้ำพุน้ำผุดที่ไหลคดเคี้ยวจากบนเขาลงตีนเขา
แล้วไหลผ่านช่องเขาลงสู่ที่ราบระหว่างเขาพระทางเหนือ
กับเขาทำเทียมทางใต้ กลายเป็นทางน้ำใหญ่เรียก
ห้วยหางนาค(ห้วย หมายถึงทางน้ำไหล เป็นแนวยาวจากภูเขา)
ห้วยหางนาค ไหลจากช่องเขาศักดิ์สิทธิ์ด้านตะวันตก
ลงที่ราบเชิงเขาลาดเอียงสู่ด้านตะวันออก
แล้วเข้าคูเมืองอู่ทอง หล่อเลี้ยงผู้คนในเมือง
ก่อนไหลลงแม่น้ำจรเข้สามพันไปออกแม่น้ำท่าจีน
บนยอดเขาพุหางนาคอันศักดิ์สิทธิ์ อ. ศิริพจน์
เหล่ามานะเจริญ นักวิชาการอิสระ
สำรวจพบหินตั้งเนื่องในศาสนาผี ราว 2,000 ปีมาแล้ว
โดยใช้งานต่อเนื่องในศาสนาพุทธยุคทวารวดี ราว 1,500
ปีมาแล้ว
น้ำที่ผุดจากเขาพุหางนาค
แล้วไหลเป็นห้วยหางนาคลงสู่ที่ราบจึงเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
หมายความว่าสองฝั่งห้วยหางนาคก็เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย
คนยุคทวารวดีเมื่อรับศาสนาพุทธจึงสร้างพุทธสถาน
เป็นสถูปเจดีย์, วิหาร, และอื่นๆไว้สองฝั่งห้วย
นักโบราณคดีกรมศิลปากรจึงขุดพบธรรมจักรสลักบนหิน
พร้อมเสาแปดเหลี่ยมกับแท่นรองรับธรรมจักร
สัญลักษณ์พุทธศาสนายุคพระเจ้าอโศก บนฝั่งห้วยหางนาค
ห้วยหางนาค ยุคทวารวดีเป็นทางน้ำกว้างใหญ่
มีน้ำไหลแรงตลอดปี
เพราะมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์กักเก็บน้ำไว้บนเขาพุหางนาค
จึงไม่ขาดน้ำ
แต่ยุคปัจจุบันไม่มีน้ำไหล แม้น้ำขังก็หายากมากๆ
ยิ่งถึงหน้าแล้งไม่มีน้ำสักหยด
อ่างเก็บน้ำเขาพระที่ลงทุนสร้างไว้หวังจะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในตัวอำเภอ
จึงไม่มีน้ำให้เก็บกัก
ก็เหลือแต่ซากสันอ่างไว้เป็นอนุสรณ์สถาน
วัฒนธรรมมีชีวิต
แต่คนนั่นแหละมีส่วนทำลายให้วัฒนธรรมไร้ชีวิต
ทางการไม่ว่าส่วนกลาง, ส่วนภูมิภาค, หรือส่วนท้องถิ่น
ถ้ารักจะทำเมืองอู่ทองเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ต้องห้ามสร้างอาคารสถานที่บริเวณสองฝั่งห้วยหางนาคนี้
แล้วหาวิธีกักเก็บน้ำไว้ในห้วยให้ได้
สุจิตต์ วงษ์เทศ
facebook.com/sujitwongthes
ค่าพิกัด
GPS
14.373165, 99.861081
 |